สลัดควินัวสตรอเบอร์รี่


สลัดควินัวสตรอเบอร์รี่

ลอง สลัดควินัวสตรอเบอร์รี่ นี้! สลัดนี้อัดแน่นไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเพื่อสุขภาพจากผลเบอร์รี่และแตงกวา โปรตีนจากพืชจากคีนัว ถั่วชิกพี และเมล็ดฟักทอง และไขมันที่มีประโยชน์ในน้ำสลัดบัลซามิกสีขาวแบบโฮมเมดของเรา สลัดนี้เติมพลังให้กับวันอันยุ่งวุ่นวายของคุณ เต็มไปด้วยไฟเบอร์และสมบูรณ์แบบสำหรับมื้อกลางวันในวันธรรมดาระหว่างเดินทาง โดยมีจำนวนแคลอรี่ถึง 296 อิ่มเอมใจ เติมพลัง และบำรุงร่างกายด้วยความสุขที่เป็นมิตรรอบเอวแนะนำ แซนด์วิชเดนมาร์ก อ่านต่อ

สลัดควินัวสตรอเบอร์รี่

วัตถุดิบ

น้ำสลัดบัลซามิกขาว

  •  น้ำมันมะกอก บริสุทธิ์พิเศษ 1/4 ถ้วย (60 มล.) และถั่วชิกพีอีกมาก
  • น้ำส้มสายชูบัลซามิกขาว 2 ช้อนโต๊ะ ( 30มล.)
  • หางจระเข้ 1 ช้อนชาเติมความหวานตามต้องการ

สลัด

  • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ 1 ช้อนชาและอื่นๆ ตามต้องการ
  • ถั่วชิกพี 1 กระป๋อง (15 ออนซ์ [425-g]) ล้างและสะเด็ดน้ำออก
  • เกลือและพริกไทยเพื่อลิ้มรส
  •  ผงกระเทียม 1/2 ช้อนชาไม่จำเป็น
  •  ผักโขมสด 4 ถ้วย (120 กรัม)
  •  ใบคะน้าสด 4 ถ้วย (268 กรัม)
  •  ควินัวสุก 1 1/2 ถ้วย (278 กรัม)
  •  แตงกวาหั่นเป็นสี่ส่วน 2 ถ้วย (266 กรัม)
  • สตรอเบอร์รี่หั่นบางๆ 1 ถ้วย (166 กรัม)
  • เมล็ดฟักทองย่าง 2 ช้อนโต๊ะ ( 18 กรัม )

คำแนะนำ สลัดควินัวสตรอเบอร์รี่

  1. ในการเตรียม White Balsamic Vinaigrette ให้ผสมน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู บัลซามิกขาวและอากาเว ในชามขนาดเล็ก กันไว้
  2. หากต้องการทำสลัด ให้อุ่นกระทะใบใหญ่บนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอกและเมื่ออุ่นแล้ว ให้ใส่ถั่วชิกพี และปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และผงกระเทียม (หากใช้) ปรุงอาหารกวนบ่อยๆ เป็นเวลา 7 ถึง 10 นาทีจนถั่วชิกพีกรอบและเป็นสีทอง พักไว้ให้เย็น
  3. เพิ่มผักโขมและผักคะน้าประมาณหนึ่งในสี่ลงในชามสลัดแต่ละชาม วางชามแต่ละใบด้วยควินัวที่ปรุงสุกและเย็นและถั่วชิกพีกรอบประมาณหนึ่งในสี่ เพิ่มหนึ่งในสี่ของแตงกวา สตรอเบอร์รี่ และเมล็ดฟักทองลงในแต่ละชาม ราดน้ำสลัดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.) ต่อสลัดและคลุกเคล้า และเติมน้ำสลัดตามชอบ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยแล้วเพลิดเพลิน
  4. หากบรรจุสิ่งนี้สำหรับมื้อกลางวันแบบไปกลับ ให้เก็บโดยใส่น้ำสลัดไว้ด้านข้างจนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟ

Credit  จีคลับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *